กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนภัย โจรออนไลน์มามุกเก่า 5 เคส

จากปัญหามิจฉาชีพออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมากได้หากรู้ไม่เท่าทัน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนภัย โจรออนไลน์มามุกเก่า 5 เคส รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี กว่าแปดล้านบาท

จากการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ระหว่าง วันที่ 12 - 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวงผ่านเครือข่ายออนไลน์ในหลายรูปแบบจำนวน

5 คดี ประกอบด้วย

คดีที่ 1 หลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ มูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า มิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการคลังมหาวิทยาลัยมหิดล แจ้งว่า มีเงินในระบบบัญชีได้ถูกเบิกออกไปใช้ ให้ผู้เสียหายตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน โดยส่งลิงก์มาให้ ภายหลังจากที่ผู้เสียหายทำการดาวน์โหลดทำตามขั้นตอนจนเสร็จ ปรากฏว่า เงินที่อยู่ในบัญชีของตนได้ถูกโอนออกไป จึงทราบว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 2 หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหายกว่าสองล้านบาท รายยละเอียดคดี พบว่า ผู้เสียหายเคยถูกหลอกลวงให้ลงทุนและได้มีการแจ้งความก่อนหน้านี้ไว้ที่ สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ภายหลังเล่น Facebook พบเจอเพจที่อ้างว่าเป็นหน่วยงานชื่อ IT Cyber Service 9 ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากคดีฉ้อโกงออนไลน์เพื่อรับทรัพย์สินคืน ผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นเพจจริงของทางตำรวจ ได้มีการพูดคุยผ่านข้อความ และโอนเงินไปให้ โดยทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นค่าภาษี และค่าดำเนินการอื่น ๆ ภายหลังผู้เสียหายโอนเงินไป ก็ไม่สามารถติดต่อกับเพจดังกล่าวได้อีก จึงทราบว่าตนเอง ถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 3 หลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน มูลค่าความเสียหายกว่าหนึ่งล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า มิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย ชื่อว่าชื่อ“ปู” และได้แจ้งว่า ตนเองทำโทรศัพท์สูญหายจึงมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ จากนั้นได้ทำการขอยืมเงินผู้เสียหาย ภายหลังจากได้โอนเงินไปให้ก็ไม่สามารถติดต่อเบอร์ดังกล่าวได้อีก จึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 4 หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหายเกือบสองล้านบาท ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพชักชวนทำงานหารายได้พิเศษระบบสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางไลน์ (Line) โดยผู้เสียหายต้องทำการซื้อแพ็กเกจเพื่อค้ำประกันการทำงาน และค่าดำเนินการอื่นๆก่อน

ในแอปพลิเคชัน “ALLEGRO” โดยจะได้รับค่าตอบแทนเปอร์เซ็นต์จากจำนวนเงินที่โอนไป ภายหลังจากโอนเงินไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อกับมิจฉาชีพได้อีก จึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

และคดีที่ 5 ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหายกว่าสองล้านบาท รายละเอียดคดี พบว่า มิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงิน เพื่อการแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ให้โอนเงินเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วจะโอนกลับคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไป หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอให้ประชาชนระวังการหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ติดต่อเข้ามาผ่านโทรศัพท์ และสื่อสังคมออนไลน์ หากมั่นใจว่าปลายสายเป็นมิจฉาชีพ ให้วางสายทันที และแจ้งเบาะแสกับหน่วยงานที่ดูแล ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "@nI 'ดีอี' เตือนภัย โจรออนไลน์มามุกเก่า 5 เคส region2.prd.go.th ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 www.facebook.com/PRD2UBON"

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar